ลองทำเช็คลิสต์ให้ตัวเองตามนี้ดูค่ะ 

• ภาษาอังกฤษยังพอใช้ได้ในเมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยว: ในเมืองใหญ่อย่างปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว หรือตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะ ๆ เช่น กำแพงเมืองจีน, พระราชวังต้องห้าม, หรือสถานที่ยอดนิยมในมณฑลยูนนาน คุณจะพบว่ามีป้ายบอกทางเป็นภาษาอังกฤษ พนักงานโรงแรม พนักงานในร้านอาหารบางแห่ง หรือแม้แต่คนท้องถิ่นรุ่นใหม่ที่พอจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้บ้างค่ะ

• แอปพลิเคชันคือผู้ช่วยชีวิต: นี่คือไม้ตายสำคัญเลยค่ะ! โทรศัพท์มือถือของคุณจะกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดสำหรับการสื่อสาร

  • แอปแปลภาษา: Google Translate (บางครั้งอาจต้องใช้ VPN ในจีน) หรือ Baidu Translate (ใช้งานได้ดีในจีน) เป็นตัวช่วยที่ดีเยี่ยม สามารถแปลได้ทั้งข้อความ เสียง และแม้กระทั่งการแปลจากรูปภาพ (เช่น ถ่ายรูปเมนูอาหาร แล้วให้แอปแปลให้)

  • แอปแผนที่: Baidu Maps หรือ Amap (Gaode Maps) เป็นแอปที่แม่นยำกว่า Google Maps ในจีน และมีฟังก์ชันการเดินทางสาธารณะครบครัน ถึงแม้จะเป็นภาษาจีนเป็นหลัก แต่ก็พอจะเดาและใช้ตามสัญลักษณ์ได้ค่ะ

  • แอปเรียกรถ/ขนส่งสาธารณะ: DiDi Chuxing เป็นแอปเรียกรถที่นิยมมากในจีน ใช้งานง่ายและมักจะมีตัวเลือกภาษาอังกฤษให้เลือกด้วยค่ะ ส่วนการใช้รถไฟใต้ดินหรือรถบัสในเมืองใหญ่ ๆ ก็มักจะมีแผนที่ภาษาอังกฤษบอกเส้นทางนะคะ

• ภาษากายคือภาษาสากล: ยิ้มเข้าไว้ค่ะ! การชี้, การใช้มือสื่อสาร, หรือแม้แต่การเปิดรูปภาพสิ่งที่คุณต้องการให้ดู ก็ช่วยให้การสื่อสารราบรื่นขึ้นได้มากค่ะ คนจีนส่วนใหญ่ใจดีและพร้อมให้ความช่วยเหลือค่ะ

• ร้านอาหารท้องถิ่น: หากคุณอยากลองสัมผัสรสชาติอาหารจีนแท้ ๆ ในร้านเล็ก ๆ ที่ไม่ได้มีนักท่องเที่ยวเยอะ เมนูอาจจะไม่มีภาษาอังกฤษเลย การใช้แอปแปลรูปภาพ หรือเตรียมรูปอาหารที่อยากกินไปเปิดให้ดูจะเป็นประโยชน์มากค่ะ

• นอกเมืองใหญ่: หากเดินทางออกไปเที่ยวในเมืองเล็ก ๆ หรือชนบท ห่างไกลจากแหล่งท่องเที่ยวหลัก โอกาสที่จะเจอคนพูดภาษาอังกฤษได้จะน้อยลงค่ะ ในกรณีนี้ การเตรียมวลีพื้นฐานไปบ้างจะช่วยได้เยอะเลยค่ะ

• การต่อรองราคา: ในตลาดหรือร้านค้าบางแห่ง การรู้ตัวเลขภาษาจีนจะช่วยให้คุณต่อรองราคาได้สนุกขึ้น (และอาจจะได้ราคาที่ดีขึ้นด้วย!)